การรักษา
- หากต้อมีขนาดเล็ก อาจมีอาการเคืองตา แสบตา เป็นบางครั้ง การรักษาในระยะนี้ แนะนำให้หยอดน้ำตาเทียมเมื่อมีอาการเคืองตา ในบางครั้งถ้าต้อแดงอักเสบมาก อาจต้องพบจักษุแพทย์เพื่อรับยาหยอดตาแก้อักเสบมาหยอดเป็นครั้งคราว
- หากต้อมีขนาดใหญ่ขึ้น มีอาการเคืองตา ตาแดงบ่อยๆ หรือต้อเนื้อยื่นเข้ามาในตาดำ ปานกลางถึงมาก อาจพิจารณาลอกต้อเนื้อออก
การลอกต้อเนื้อสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล ใช้เวลาทำไม่เกิน 45 นาที และทำโดยการหยอดยาชาและฉีดยาชาเข้าที่บริเวณต้อ ทำให้ไม่เจ็บขณะลอก
ข้อบ่งชี้ของการผ่าตัดลอกต้อเนื้อ
- ปัญหาด้าน cosmetic ความสวยงาม
- มีการอักเสบเคืองแดงบริเวณต้อเนื้อซ้ำบ่อยๆ
- ต้อเนื้อมีขนาดใหญ่ จนเริ่มบังการมองเห็น
- ต้อดึงรั้งจนทำให้เกิดภาวะสายตาเอียง
การผ่าตัดลอกต้อเนื้อมี 2 วิธี คือ
- การลอกแบบธรรมดา เป็นการลอกส่วนที่เป็นต้อเนื้อออก และแผลจะปิดได้เอง วิธีนี้เหมาะสำหรับคนไข้ที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป มีโอกาสเป็นซ้ำได้ประมาณ 10-15%
- การลอกแบบปลูกเนื้อเยื่อ เป็นการลอกต้อเนื้อออกแล้วนำเนื้อเยื่อรก หรือ เนื้อเยื่อตาขาวของคนไข้เองมาเย็บปิดแผล เพื่อช่วยลดการเป็นซ้ำ วิธีนี้เหมาะกับคนที่อายุน้อย เช่น อายุประมาณ 30 – 40 ปี หรือต้อเนื้อที่มีขนาดใหญ่
โดยแพทย์จะพิจารณาจากหลายๆปัจจัยร่วมกันว่าเหมาะกับการลอกวิธีใด หลังผ่าตัดต้อเนื้อควรหยอดยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงฝุ่น แดด ลม และใส่แว่นกันแดด เพื่อให้แผลหายดี
การป้องกัน
เนื่องจากต้อเนื้อสัมพันธ์กับแสงแดด ลม ฝุ่น ซึ่งในแสงแดดมีรังสี ultraviolet ( UV) ที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำให้ต้อเนื้อลุกลามมากขึ้น ดังนั้นจึงแนะนำให้ใส่แว่นกันแดดกันลมเป็นประจำเวลาออกนอกบ้าน แว่นกันแดดที่ดีควรเป็นแว่นที่สามารถป้องกันแสง UV ได้ 100%
สรุป
ต้อเนื้อ สามารถรักษาให้หายขาดได้ การพิจารณาลอกต้อเนื้อมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ได้แก่ อายุ ขนาดของต้อเนื้อ อาการ ซึ่งหากมีข้อสงสัยว่าควรลอกหรือไม่ แนะนำให้ปรึกษาจักษุแพทย์โดยตรง